แนวคิดช่วยเหลือชุมชนแบบยั่งยืนทำได้จริง คุยกับพี่ป๋อง AmoArte ผู้นำไผ่ไทยสู่ตลาดโลก

วันนี้ทาง GPThailandfamily มีโอกาสได้คุยกับพี่ป๋อง เจ้าของแบรนด์ AmoArte หนึ่งในคนที่หลังจากทีมงานเราได้คุยแล้วสร้างแรงบรรดาลใจเราได้เยอะมากทำให้เราตระหนักถึงความเท่ของวัสดุไทยและความฉลาดในการรักโลกแบบยั่งยืนไปพร้อมค้นพบแนวคิดที่ทรงพลังจากพี่ ป๋อง อมรเทพ คัชชานนท์ กันเลย

AmoArte เปิดมานานหรือยังครับ ?

พี่ ป๋อง อมรเทพ คัชชานนท์ ทำแบรนด์ AmoArte Setup ทำมาประมาณ 4 ปีละครับ แต่ว่าธุรกิจตัวเนี่ยทำมาเป็นสิบๆปีล่ะก็คือมา rebranding ใหม่จริงๆเราทำงานพวกงานไม้ไผ่มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ววัสดุพวกเกี่ยวกับพวกวัสดุพื้นบ้านวัสดุพื้นถิ่นที่ทำจากไม้ไผ่พอมาเริ่มทำมาก็มีเพิ่มพวกวัสดุไม้ตาลที่มันล้มแล้วเอามาแปรรูปเป็นวัสดุเป็นเฟอร์นิเจอร์ก็คือจะเป็น Concept sustainable เป็นพวกเฟอร์นิเจอร์ของตกแต่งจากป่าเลยมันเป็น sustainable อยู่แล้วในลักษณะที่มันเป็นวัสดุที่โตเร็วเราก็มีอยู่เยอะด้วยในประเทศไทย

ก็ในส่วนของต้นตาลเราก็ใช้เป็นพวกซากต่างๆสำหรับชาวบ้านที่เค้าล้มต้นตาลที่มันหมดผลประโยชน์แล้วหรือต้นที่มันโดนด้วงเจาะอะไรแบบนี้โดยปกติเขาจะไปทำเสาบ้านทำพื้นบ้านแต่เราเห็นว่ามันน่าสนใจดีเราก็เลยเอาของมาทำเป็นพวกเฟอร์นิเจอร์ซึ่งก็จะมีลวดลายที่น่าสนใจดีเลยเอามาผสมผสานกันดูให้มีเรื่องมีความน่าสนใจและก็แทนที่มันจะเป็นแค่วัสดุอย่างเดียวแต่เราทำเป็นการผสมไม้ไผ่กับไม้ตาลซึ่งทั้งทั้งสองวัสดุเนี่ยมันก็เป็นวัสดุที่หาได้ในในประเทศไทยแล้วก็เป็นไม้พื้นถิ่นก็เลยเป็นความน่าสนใจและก็เป็นเหมือนกันตาม Concept ของแบรนด์ด้วยเราพยายามจะทำให้แบรนด์มันเป็น sustainability

สัดส่วนลูกค้าอยู่ทวีปไหนบ้างครับ?

ถ้าจริงๆแล้วก็คือของผมน่าจะสัดส่วนไม่ต่างกันมากจะเป็นแค่ช่วงเวลาหนึ่งเช่นปีนี้ลูกค้าคนไทยจะได้รับผลตอบรับเยอะกว่าขึ้นอยู่กับสถานการณ์โลก ช่วงหลังนี่คืองานของทางประเทศไทยเราก็คือขยายมากขึ้นลูกค้าค่อนข้างให้ความสำคัญกับพวกวัตถุดิบที่เป็นพื้นถิ่นมากขึ้นและก็ Concept เรื่องของความยั่งยืนทั่วประเทศตอนนี้มันค่อนข้างชัดเจนขึ้นลูกค้าก็เข้าใจได้ง่ายขึ้น แต่ก่อนหน้านี้เราจะทำตลาดเน้นเป็นส่งออกเป็นต่างประเทศซะมากกว่าเพราะว่าเนื่องจาก Design ด้วยล่ะก็เรื่องของตัววัสดุด้วยที่บางทีมันเป็นวัสดุที่บางทีทางเอเชียหรือทางเหนือเราจะมองว่าเอ๊ะไม่ไปมันดูไม่แพงนักมันดูไม่ได้เป็นวัสดุที่คิดจะทำหรูได้ทำดีไซน์ได้แต่ว่าในต่างประเทศแต่เค้าค่อนข้างยอมรับในระดับหนึ่งแล้วเรื่องของตัววัสดุไม้ไผ่มันเป็นวัสดุที่ยั่งยืนและเราไปทำตลาดต่างประเทศด้วยด้วยการเอา Design ไปด้วยก็ได้รับความสนใจที่ดีลูกค้าก็ชื่นชอบ

ยุโรปจะได้รับความความนิยมมากกว่าแต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็คือในช่วงหลังค่อนข้างไปทางแบบพวกทางอเมริกาใต้แอฟริกาใต้ก็มีผู้สนใจเข้ามาเยอะลูกค้าจะค่อนข้างค่อนข้างกระจายล่ะแต่ว่าของเรากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ก็จะเป็นพวกโรงแรมร้านอาหารเลยนะครับที่เป็นทั้งในประเทศและต่างประเทศ สินค้าเราก็จะเป็นพวกเฟอร์นิเจอร์แล้วก็วัสดุตกแต่งที่ทำจากใบไผ่เและไม้ตาล

ตอนนี้ตั้งข้อตั้งเป้าไว้ในอนาคตยังไงบ้างครับ?

ก็ส่วนหนึ่งก็คือเราเริ่มต้นจากการที่ติดต่อกับพวกชุมชนคนปลูกไผ่ผมมีการทำงานในลักษณะงานดีไซน์และก็งานชุมชนและเป็นงานฝีมือที่บางทีมันก็เป็น knowhow บางอย่างที่มาจากพื้นถิ่นนะเราก็ไปปรับปรุงเแล้วก็คุบกับทางชุมชนว่าเราชอบเทคนิคแบบนี้ให้เค้าทำแบบนี้ส่งมาให้ละ

เราอยากพูดเรื่องของความยั่งยืนที่มันไม่ใช่แค่พวกสินค้าเราอย่างเดียวเป็นเรื่องที่เราไปสนับสนุนชุมชนให้มีรายได้จากการที่ทำสินค้าแล้วก็ส่งให้เราเพื่อไปทำตลาดหรือการการทำ Design ใหม่มันเป็นการส่งต่อและต่อยอดในลักษณะของการที่มากกว่าการที่เราทำสินค้าอีกมันเป็นการส่งเสริมให้ในเรื่องของความยั่งยืนเน้นในทุกมิติไปสู่วิถีชุมชนด้วยอย่างการที่เราเล่าเรื่องไม้ตาลแบบนี้บางคนเค้าไม่รู้จักไม้ตาลมาก่อนเขาเห็นสินค้าเราเขาชอบเขาบอกว่าสวยแต่เขาจะถามว่ามันเป็นไม้อะไรมาจากที่ไหนเราก็ได้เล่าเรื่องราวที่มันเป็นสะท้อนกลับไปถึงที่มาว่ามันมาจากมันมาจากชุมชนพื้นถิ่นที่เค้ามีวัสดุตัวนี้นะและนอกจากตัวไม้ตาลแล้วมันเป็นทำเป็นน้ำตาลได้ด้วยเป็นอาหารได้ด้วยคนก็จะกลับไปหาชุมชนมากขึ้นแล้วก็ไปมันก็ไปส่งเสริมหลายคนอาจจะอยากไปเที่ยวดูตรงนั้นมันก็จะเกิดความยั่งยืนต่อยอดออกมาซึ่งอันนี้มันเป็นเป้าหมายของ brand ที่เราอยากจะสื่อสารไปให้ได้กว้างกว่าแค่แค่โปรดักต์เราอยากเล่าเรื่องราวกว่าที่มันจะเป็นมานะมันไม่ใช่แค่กระบวนการคิดการออกแบบแต่มันมาจากสิ่งที่เราไปเอาจากภูมิปัญญาท้องถิ่นหรือไปเอาเรื่องราวจากท้องถิ่นนะมาส่งเสริมต่อยอดมันทำให้มีส่งเสริมมากกว่าสินค้าไม่ใช่แค่จบแค่ว่า สินค้าออกแบบเสร็จแล้วสวยแต่มันจะแบนมีเรื่องราวที่สะท้อนกลับไปทางให้กับชุมชนสังคมอันนี้เป็นเป้าหมายที่หวังว่าในอนาคตอยากจะให้มันให้มันชัดเจนมากขึ้น

พบคุณป๋อง ที่ STYLE Bangkok ที่กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจัดขึ้นร่วมสัมผัสแรงบันดาลใจ การค้นพบ และความเป็นเลิศทางธุรกิจที่ STYLE Bangkok 2024 ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมและลงทะเบียนเข้าร่วมงานได้ที่ www.stylebangkokfair.com #StyleBangkok2024

หลังเราได้ฟังเรื่องราวของทางพี่ป๋อง AmoArte ไปแล้วนอกจากเรื่องความยั่งยืนที่ AmoArte จริงจังแล้วยังมีเรื่องของการช่วยเหลือชุมชนอีกด้วยต้องขอยอมรับจริงๆว่าเป็น Brand ที่ทีมงานเราฟังแล้วตกหลุมรักจริงๆใครสนใจเข้าไปดูที่นี้เลย www.facebook.com/AmoArte.brand